รู้แล้วถามทำไม

11  มีนาคม 2561

หลายครั้งป้าโอ้ทได้รับข้อความส่วนตัว ส่งตรงจากเพื่อนหลายคน ทั้งที่รู้จักการมานานมาก และไม่นาน และไม่เคยรู้จัก ป้าโอ้ทเป็นเศษเสี้ยวพระมหาชนก เป็นคนดี จิตใจดี ( ใครหมั่นไส้ตรงนี้ก็อย่าเพิ่งหนีนะคะ ทนอ่านกันให้จบก่อน ) ป้าโอ้ทคุยกับทุกคน

ทุกคนเข้ามาเพราะต้องการปรึกษา ถาม อยากได้คำแนะนำ  หลายคนรู้จักกันมานานมาก จนรู้ได้ว่าวิสัยป้าโอ้ท”เถื่อน” แต่ไม่โหดนะคร้าบบบ

ที่ว่าเถื่อนคือ ป้าโอ้ทไม่เออ ออ ห่อหมกกับใคร ไม่ปลอบใคร เพราะปลอบไม่เป็น  ป้าโอ้ทจะรับข้อมูลแล้วพิจารณาตามสิ่งที่มีแนวโน้มความเป็นไปได้ และตอบกลับไป ส่วนมากเพื่อนที่ถามรับได้ เขาก็จะคิดตาม เห็นชอบ ไม่ชอบก็แล้วแต่เขา ป้าโอ้ทจะบอกให้เขาคิดเอง ตัดสินใจเองว่าจะทำอย่างไรต่อ

เพื่อนที่ไม่รู้จักป้าโอ้ท รู้จักป้าโอ้ทแต่ไม่นานพอ ถามมา ป้าโอ้ทตอบไปตามที่ป้าโอ้ทพิจารณาแล้วในมุมของป้าโอ้ท และ ในความเป็นไปได้ เพื่อนเหล่านั้น ตอบกลับมาว่า รู้แล้ว คิดแล้ว แต่…

เมื่อตอบมาแบบนี้ ป้าโอ้ทจบการสนทนาด้วยคำตอบ “เมื่อรู้แล้วก็ไม่ต้องถามจ้า” จบ

ในมุมมองของป้าโอ้ท ซึ่งป้าโอ้ทจะพิจารณาตัวเองก่อน ไม่ว่าจะมีกรณีพิพาทใด ๆ กับใครทุกกรณี

เราทำอะไรพลาดหรือเปล่า ให้ถี่ถ้วน จะไม่โยนขี้ให้ใครก่อน  ไม่ใช่ว่าตัวป้าโอ้ทดีเริ่ดนะคะ แต่ป้าโอ้ทคุยกับคนหลากหลาย เช่นตัวอย่างข้างบนที่กล่าวไป ป้าโอ้ทก็ต้องพิจารณาว่า “เราเป็นแบบนั้นไหมน๊า”

ป้าโอ้ทเชื่อว่า ถ้าทุกคนพิจารณาตัวเองอย่างถี่ถ้วน ไม่เอาเรื่องนั่น นี่ ร้อยแปด มาเป็นข้ออ้าง อันนี้ก็ไม่ได้ อันนั้นก็ไม่พร้อม อั้นโน้น บลา บลา เป็นข้อแก้ต่างจากเหตุที่เกิด ปัญหาทุกปัญหา ทุกคนหาคำตอบได้ค่ะ แต่ถ้าสุดทางแล้วหาไม่ได้ เมื่อถามคนอื่น ก็รับข้อมูลมาเงียบ ๆ แม้จะไม่เห็นด้วยก็ตาม เพราะตัวเองไปถามเขาเอง เขาไม่ได้”เจ๋อ” มาบอกสักหน่อย  ถ้าเขา” เจ๋อ ” ก็อีกเรื่อง

จบ